1

1
2

วันพฤหัสบดีที่ 25 ธันวาคม พ.ศ. 2551

น้ำผึ้งหยดเดียว



น้ำผึ้งหยดเดียว(3)
วัฒนธรรมการทักทายของไทยเรา เพียงยกมือขึ้นไหว้พร้อมกับกล่าวคำว่า “สวัสดี”
วัฒนธรรมการทักทายของอิรักที่นี่ยืดเยื้อเงื้อง่าพอสมควร เจอใครก็ต้องให้สลามเป็นคำพูดว่า อัสสลามมุอะลัยกุม ผู้รับสลามก็จะกล่าวว่า วะอะลัยกุมุสลาม ถ้าเป็นเพศเดียวกัน เช่น ชายกับชาย ก็ให้สัมผัสมือกันได้
แม้แต่ชายกับชายเป็นเพื่อนสนิทกันแล้ว แค่สัมผัสมือไม่พอครับ จะถูกดึงไปหอมแก้มขวา หอมแก้มซ้ายและหอมแก้มขวา มือไม้ก็ต้องโอบไหล่กันทั้งสองคน วัฒนธรรมรัสเซียมีแต่หญิงหอมชาย ชายหอมหญิง หอมกันสามที เริ่มที่แก้มขวาก่อนเหมือนกัน ทักทายกันแบบรัสเซียนี่ นิติภูมิ...ช..อ..บ...
แต่ที่อิรัก ชายหอมชาย อุ๊ย จั๊กจี้ บางคู่พอเสร็จจากหอมแก้ม ก็จะลดหน้าลงไปจูบที่ไหล่ บางคู่ให้สลามรับสลามกันเรียบร้อยแล้วจึงหอมแก้มขวา ถามว่า สบายดีไหม? อีกฝ่ายตอบว่า สบายดี แล้วก็หอมแก้มซ้ายดังจุ๊บ ถามว่า ทำไมไม่โทร.มาหาตั้งนาน คิดถึงนะ เอ้า หอมแก้มขวาอีกจ๊วบ
อีกฝ่ายตอบ ก็ตอนนี้มีธุระยุ่งนุงนัง ฉันต้องไปตั้งหลักอยู่ต่างเมืองโน่น เอ้า หอมแก้มขวา คุณพ่อคุณแม่ของคุณล่ะซะบายดีมั้ย? เอ้า หอมแก้มซ้าย ก็ซะบายดีกันทั้งสองท่านนั่นแหละ น่าน ทีนี้ก็หอมแก้มขวา
ชายกับชาย (ของแท้นะครับ) แค่ทักทายกันกว่าจะได้เข้าเรื่อง บางคู่ใช้เวลานานกว่าสิบนาที แจกหอมกัน ประมาณสิบกว่าครั้ง อึ๋ย..ย
แฮ่ๆ ผมมัวแต่อู้เรื่องหอม เลยลืมเรื่องสงครามที่จะมารับใช้ต่อจากเมื่อวานนี้ มีเกร็ดอยู่อย่างหนึ่งซึ่งเมืองไทย เข้าไปเกี่ยวข้องในสงครามอิรัก-อิหร่านด้วย คือ ทหารอิหร่านของโคไมนีที่ทำการยุทธ์ภายใต้สภาพพิเศษ ด้วยการข้ามแม่นํ้ามาฝั่งอิรักในวันแรกๆ เมื่อถูกยิงตาย ในศพก็ต้องเจอที่นอน หมอนและลูกกุญแจพลาสติกอยู่ด้วยทุกทั่วตัวคน
อิรักก็เลยเอาเชลยศึกมาสอบถาม ได้ความดังนี้
กองทัพอิหร่านหลอกทหารของตัวว่า ถ้าข้ามแม่นํ้าไปในพรมแดนอิรักก็จะเจอกัรบาลาฮฺและนาจัฟ ซึ่งเป็นเมืองทางศาสนาอิสลามนิกายชีอะห์ เมื่อเรายึดกัรบาลาฮฺและนาจัฟได้แล้ว ก็ให้จัดการพักผ่อนหลับนอนกันในเมืองนั้นเลย เมืองอยู่ข้ามแม่นํ้าไปใกล้แค่นี้เอง (ความเป็นจริงอยู่ไกลมาก)
ขอให้ทหารหาญทั้งหลายเอาลูกกุญแจพลาสติกนี้แขวนคอไปด้วย หากพลาดท่าเสียทีมีการเสียชีวิต กุญแจดอกนี้จะเป็นเสมือนสิ่งที่ใช้ไขประตูสวรรค์เพื่อกลับไปสู่อยู่ในความเมตตาของพระผู้เป็นเจ้า
ทหารต้องไม่กลัวตาย ท่านทั้งหลายคงตระหนักดีทุกคนแล้วว่า อินนาลิลลา ฮิวะอินนาอิลัยฮิรอญิอูน แท้จริงแล้ว ชีวิตของเราทั้งหลายเป็นของอัลลอฮฺ (ซุบฮาฯ) และแท้จริงเราเป็นผู้กลับไปหาพระองค์
ณ เบื้องต้นแห่งสงครามนั้น ราชอาณาจักรไทยเข้าไปเกี่ยวข้องด้วย ก็เพราะว่า ฮ่าๆ ลูกกุญแจพลาสติกทุกดอก มีข้อความตัวเล็กๆกระจิริดพิมพ์นูนอยู่ด้วยว่า made in Thailand ทำในเมืองไทย นั่นเอง ไทยของเราก็เข้าไปอยู่ในประวัติศาสตร์สงครามกับเค้าด้วยเพราะเหตุนี้
กลับมาดูคูเวตซึ่งเป็นประเทศเล็กกระจิริดกระจ้อยร่อย ที่มีพรมแดนติดกับทั้งอิรักและอิหร่านกันบ้าง ถ้าเราเป็นชาวคูเวตก็ต้องเข้าข้างอิรักนั่นแหละ เพราะเป็นอาหรับด้วยกัน ส่วนอิหร่านนั้นเป็นพันธุ์เปอร์เซีย
พอเกิดสงคราม อิรักก็ขอร้องให้ไอ้น้องคูเวตส่งทหารมาช่วยพี่รักษาการณ์ตามชายฝั่งให้หน่อย ช่วยระแวดระวังอย่าให้พวกเปอร์เซียบุกขึ้นมาตีทางตอนใต้ของพี่ได้นะน้อง
คูเวตก็ร่วมมืออย่างดี ถึงขนาดไปตั้งแคมป์เป็นกองทัพสนามให้ในเขตทุ่งรูไมลา กองทัพสนามเล็กๆของคูเวต ตั้งเข้าไปในเขตแดนของอิรัก 3 กิโลเมตร เป็นเวลานานหลายปี อิรักกับอิหร่านก็รบกันไปเรื่อย จนกระทั่งสงครามหยุด
รัฐบาลอิรักก็เลยสะกิดไปที่ไอ้หนูคูเวตว่า สงครามหยุดแล้ว ช่วยเอากองทัพสนามขนาดเล็ก กระจิริดของน้องออกจากดินแดนของพี่ซะที

พรุ่งนี้มาดูกันต่อครับ คูเวตจะตอบอิรักว่ายังไง?

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น